อาลัย ‘Sir Nicholas Winton’ วัย 106 ผู้ช่วยชีวิต “เด็กชาวยิว” จากการ “สังหารหมู่”

อาลัย ‘Sir Nicholas Winton’ วัย 106 ผู้ช่วยชีวิต “เด็กชาวยิว” จากการ “สังหารหมู่” Sir Nicholas ผู้ช่วยชีวิตเด็กชาวยิวกว่า 650 คนจากนาซี
Sir Nicholas Winton ได้จากโลกไปแล้วด้วยวัย 106 ปี  เขาได้รับฉายาว่า Schindler แห่งอังกฤษ เนื่องจากความเป็นวีรบุรุษของเขาที่ได้ช่วยเหลือเด็กชาวยิวกว่า 650 คน ให้รอดพ้นจากการสังหารหมู่โดยนาซี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเขาได้พาเด็กๆหนีขึ้นรถไฟจากกรุงปราก ไปยังอังกฤษ แด่ Sir Nicholas ผู้จากไป Sir Nicholas กับเด็กที่เขาช่วยมาจาก เช็กโกสโลวะเกีย ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาไม่ได้เล่าเรื่องการช่วยชีวิตเด็กพวกนั้นให้ใครฟังเลยจนกระทั่งปี 1988 เมื่อภรรยาของเขาไปเจอสมุดบันทึกของเขา ซึ่งภายในจดบันทึกชื่อของเด็กพวกนั้น รวมถึงชื่อของพ่อแม่ของพวกเขาด้วย เขาได้รับเกียรติจากประเทศเช็ก เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ลูกเขยของเขาบอกว่า Sir Nicholas จากไปยังสงบที่โรงพยาบาล Wexham ใน Slough โดยมีลูกสาว คือ Barbara และหลานอีกสองคน อยู่ข้างๆ ญาติคนหนึ่งของเด็กชายที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้สรรเสริญว่าเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆคนในโลกใบนี้ เขาเล่าว่าตอนนั้น Peter Miles เด็กชายผู้รอดชีวิตเพิ่งจะอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น เด็กชายถูกส่งขึ้นรถไฟจากปรากสู่อังกฤษอย่างปลอดภัย แต่โชคร้ายที่คนอื่นๆในครอบครัวของเขา ทั้งแม่ และพี่ชายถูกส่งไปยัง Auschwitz และไม่ได้มีชีวิตรอดแบบ Peter นอกจากนี้ยังมีคนอีกจำนวนมาก ที่ถูกช่วยชีวิตโดย Sir Nicholas แต่เป็นเวลานานถึงครึ่งศตวรรษกว่าเขาจะได้มีโอกาสพบกับผู้ที่เคยช่วยชีวิตเขา Peter พยายามค้นหาผู้ถูกช่วยชีวิตพร้อมๆกับเขา และเชิญพวกเขามาฉลองวันเกิดให้แก่ Sir Nicholas ด้วยกัน ภรรยาของ Peter บอกว่า มันเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงที่ Sir Nicholas ได้ช่วยชีวิตของสามีเธอเอาไว้ หลานๆของผู้รอดชีวิต ต่างซาบซึ้งในบุญคุณของ Sir Nicholas “เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่สุด และผมไม่คิดว่าจะไม่พบใครบนโลกที่เหมือนเขาอีกแล้ว” หนึ่งในผู้รอดชีวิตวัย 80 ปี ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในลอนดอนกล่าว “ถ้าเขาไม่ช่วยฉันเอาไว้วันนั้น ฉันคงไม่มีวันนี้ ไม่มีสามี ไม่มีลูกๆและหลานๆ” “เขามีบุญคุณต่อฉันมากจริงๆ” ในคืนที่ Peter และครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านในเช็กโกสะโลวะเกียกลางดึก Sir Nicholas ได้ช่วยพวกเขาไว้ โชคร้ายที่ Harry พี่ชายของเขามีอายุเกินกว่าจะไปพร้อมกับขบวนรถไฟนั้นด้วย Peter คือผู้โชคดีคนเดียวในครอบครัว Peter บอกว่า เขาถูกปลอบใจว่า “เราจะไปพักร้อนกัน เดี๋ยวก็กลับมา” และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเจอกับพ่อของเขา ที่โดนรมแก๊สเมื่อไปถึง Auschwitz หลังจากนั้นกว่า 20 ปี เขาจึงมีโอกาสเจอแม่และพี่ชายอีกครั้ง Sir Nicholas และ Peter เมื่อสองปีก่อน Peter เล่าเรื่องชีวิตของเขาให้ John ผู้เป็นลูกชายฟัง เขายังจำมันได้ดี อาลัย ‘Sir Nicholas Winton’ วัย 106 ผู้ช่วยชีวิต “เด็กชาวยิว” จากการ “สังหาร

หมู่”ShareTweetEmailChad in Inspire July 2, 2015 Like Kiitdoo on Facebook Sir Nicholas ผู้ช่วยชีวิตเด็กชาวยิวกว่า 650 คนจากนาซี Sir Nicholas Winton ได้จากโลกไปแล้วด้วยวัย 106 ปี เขาได้รับฉายาว่า Schindler แห่งอังกฤษ เนื่องจากความเป็นวีรบุรุษของเขาที่ได้ช่วยเหลือเด็กชาวยิวกว่า 650 คน ให้รอดพ้นจากการสังหารหมู่โดยนาซี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเขาได้พาเด็กๆหนีขึ้นรถไฟจากกรุงปราก ไปยังอังกฤษ แด่ Sir Nicholas ผู้จากไป AP Evening Standard Sir Nicholas กับเด็กที่เขาช่วยมาจาก เช็กโกสโลวะเกีย ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 Channel 5 เขาไม่ได้เล่าเรื่องการช่วยชีวิตเด็กพวกนั้นให้ใครฟังเลยจนกระทั่งปี 1988 เมื่อภรรยาของเขาไปเจอสมุดบันทึกของเขา ซึ่งภายในจดบันทึกชื่อของเด็กพวกนั้น รวมถึงชื่อของพ่อแม่ของพวกเขาด้วย เขาได้รับเกียรติจากประเทศเช็ก เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ลูกเขยของเขาบอกว่า Sir Nicholas จากไปยังสงบที่โรงพยาบาล Wexham ใน Slough โดยมีลูกสาว คือ Barbara และหลานอีกสองคน อยู่ข้างๆ ญาติคนหนึ่งของเด็กชายที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้สรรเสริญว่าเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆคนในโลกใบนี้ เขาเล่าว่าตอนนั้น Peter Miles เด็กชายผู้รอดชีวิตเพิ่งจะอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น เด็กชายถูกส่งขึ้นรถไฟจากปรากสู่อังกฤษอย่างปลอดภัย แต่โชคร้ายที่คนอื่นๆในครอบครัวของเขา ทั้งแม่ และพี่ชายถูกส่งไปยัง Auschwitz และไม่ได้มีชีวิตรอดแบบ Peter นอกจากนี้ยังมีคนอีกจำนวนมาก ที่ถูกช่วยชีวิตโดย Sir Nicholas แต่เป็นเวลานานถึงครึ่งศตวรรษกว่าเขาจะได้มีโอกาสพบกับผู้ที่เคยช่วยชีวิตเขา Peter พยายามค้นหาผู้ถูกช่วยชีวิตพร้อมๆกับเขา และเชิญพวกเขามาฉลองวันเกิดให้แก่ Sir Nicholas ด้วยกัน ภรรยาของ Peter บอกว่า มันเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงที่ Sir Nicholas ได้ช่วยชีวิตของสามีเธอเอาไว้ หลานๆของผู้รอดชีวิต ต่างซาบซึ้งในบุญคุณของ Sir Nicholas AP “เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่สุด และผมไม่คิดว่าจะไม่พบใครบนโลกที่เหมือนเขาอีกแล้ว” หนึ่งในผู้รอดชีวิตวัย 80 ปี ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในลอนดอนกล่าว “ถ้าเขาไม่ช่วยฉันเอาไว้วันนั้น ฉันคงไม่มีวันนี้ ไม่มีสามี ไม่มีลูกๆและหลานๆ” “เขามีบุญคุณต่อฉันมากจริงๆ”

ในคืนที่ Peter และครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านในเช็กโกสะโลวะเกียกลางดึก Sir Nicholas ได้ช่วยพวกเขาไว้ โชคร้ายที่ Harry พี่ชายของเขามีอายุเกินกว่าจะไปพร้อมกับขบวนรถไฟนั้นด้วย Peter คือผู้โชคดีคนเดียวในครอบครัว Peter บอกว่า เขาถูกปลอบใจว่า “เราจะไปพักร้อนกัน เดี๋ยวก็กลับมา” และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเจอกับพ่อของเขา ที่โดนรมแก๊สเมื่อไปถึง Auschwitz หลังจากนั้นกว่า 20 ปี เขาจึงมีโอกาสเจอแม่และพี่ชายอีกครั้ง Sir Nicholas และ Peter AP เมื่อสองปีก่อน Peter เล่าเรื่องชีวิตของเขาให้ John ผู้เป็นลูกชายฟัง เขายังจำมันได้ดี AP “วันที่จากกัน พ่อแม่ของผมไม่ร้องไห้ซักแอะ พวกเขาคงกลัวผมจะกลัวไปด้วย นั่นทำให้ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอพ่อ หลังจากผมถูกส่งมาที่อังกฤษ ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เรียนที่นี่ เมื่อรู้ว่าแม่และพี่ชายยังมีชีวิตอยู่ ผมก็หาทางให้เขามาอยู่ที่อังกฤษด้วยกัน ทุกวันนี้น่าจะมีคนกว่า 6,000 คนบนโลก ที่เป็นหนี้บุญคุณของ Sir Nicholas” Sir Nicholas เกิดที่ลอนดอน ในปี 1909 มีพ่อแม่เป็นชาวเยอรมันเชื้อสายยิว เขาเป็นคริสเตียน เขาทำงานเป็นเสมียนในตลาดหุ้น ขณะอายุ 29 ปี เพื่อนเขาก็มาขอยกเลิกทริปไปเล่นสกี และเปลี่ยนไปเที่ยวเช็กโกละโลวะเกียแทน ในปลายปี 1938 และที่นั่น เขาได้ช่วยเหลือเด็กจำนวนมาก พาขึ้นรถไฟเด็กจำนวน 8 โบกี้ จากปราก กลับมาสู่ลอนดอน และช่วยจัดการให้เด็กเหล่านั้นสามารถเข้าพำนักที่ประเทศอังกฤษได้ วิดีโอเป็นเสียงภาษาอังกฤษ กรุณากดปุ่มด้านล่างขวาของวิดีโอ (cc) เพื่อเปิดบรรยายภาษาไทย นอกจากนี้เขายังช่วยหาบ้านที่จะช่วยดูแลเด็กๆพวกนี้จนถึงอายุ 17 ปีด้วย โดยรวมแล้ว เขาช่วยเด็กๆได้ถึง 669 คน แม้จะไม่สามารถช่วยเด็กๆได้มากเท่าที่เขาหวังไว้ก็ตาม

แต่นี่คือความพยายามที่ยิ่งใหญ่มากๆของเขา เพราะเขาทำงานเพียงคนเดียวจริงๆ เขาบอกว่าถ้าเขามีเวลามากกว่านี้ มีคนร่วมงานด้วย เขาจะสามารถช่วยเหลือเด็กได้มากกว่านี้แน่นอน เขาไม่ได้มองว่านี่คือความสำเร็จ 100% แต่เขาภูมิใจที่ทุกคนที่เขาช่วยเหลือสามารถอยู่รอดได้จนถึงสิ้นสุดสงคราม ในช่วงระหว่างสงคราม เขาได้ทำงานให้กับกองทัพอากาศ และช่วยเหลือองค์กรผู้อพยพ อย่างไรก็ดีตลอดเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยปริปากพูดเรื่องสิ่งที่เขาเคยทำมาในช่วงสงคราม แม้แต่กระทั่งในคนในครอบครัว จนกระทั่งภรรยาของเขามาเจอบันทึกลับในปี 1988 หลังจากนั้นเขาจึงกลายเป็นบุคคลสำคัญขึ้นมาทันที เขาได้ไปออกรายการโทรทัศน์ และเด็กจำนวนมากที่เขาช่วยชีวิตไว้จึงได้มารวมตัวกันเพื่อมาเจอเขาหลังจากนั้น เขาได้รับรางวัลมากมายในความกล้าหาญและเสียสละ ในปี 2003 เขาได้รับเกียรติพระราชทานคำนำหน้าชื่อเป็น Sir จากพระราชินีอลิซาเบธ นอกจากนี้ รัฐบาลเช็คยังได้เสนอชื่อเขาเข้ารับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ในปี 2013 ด้วย David Cameron นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า “โลกได้สูญเสียบุคคลที่ยิ่งใหญ่ไป และเราจะไม่ลืมสิ่งที่เขาได้ทำเอาไว้เพื่อมนุษยชาติ”

 ที่มา Dailymail , KIITDOO