วาระเวลาแห่งการพลุ่งขึ้นมา ประตูใหม่กำลังออกมา

คำเผยพระวจนะ ดร.ชัค เพียส

วันที่ 1 : วาระเวลาแห่งการพลุ่งขึ้นมา ประตูใหม่กำลังออกมา
มาร์ตี้ แคสซาดี้เข้ามาในห้องทำงานของผมในเช้าวันนี้และได้ทำกิจพยากรณ์ซึ่งผมเชื่อว่าสิ่งนี้มอบให้แก่เราทุกคน จงมองดูที่ภาพเหล่านี้ และจงก้าวเข้าสู่ถ้อยคำคำเผยพระวจนะนี้ ! " นี่เป็นวันที่น้ำพุใหม่จะพลุ่งออกมา (สังเกตจากที่เป่าฟองสบู่ที่เธอถือเข้ามา) จะมีการพลุ่งออกมาในอาณาเขตของอัครทูตและการเผยพระวจนะ (กุญแจสำคัญของการพรั่งพรูของการเผยพระวจนะคือ Nabi (นาบี) ซึ่งหมายความว่าพลุ่งขึ้นมาและไหลล้นออกไป) เรากำลังป่าวประกาศที่ประตูใหม่กำลังเปิดออกเหนือคุณและสิ่งที่ไม่สามารถที่จะออกมาได้ตอนนี้จะปรากฏออกมา ในขณะที่เราส่งถ้อยคำเผยพระวจนะในแต่ละวันไปอีก 40 วันข้างหน้านี้ เรากำลังป่าวประกาศเหนือพวกคุณแต่ละคนถึงการเชื่อมต่อกับสิ่งนี้ที่พระวิญญาณของพระเจ้ากำลังพลุ่งขึ้นอยู่ภายในคุณ ประตูใหม่กำลังเปิดออกและความชื่นชมยินดีของพระเจ้าจะนำกำลังใหม่มาสู่คุณ เรากำลังป่าวประกาศเหนือคุณว่าในเวลานี้คุณจะอยู่เหนือสถานการณ์ต่างๆที่ถ่วงคุณลง นี่คือจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของการเผยพระวจนะใหม่ทั้งหมดของพระเจ้า กระโดดเข้าไปในขณะที่มันกำลังพลุ่งออกมารอบๆตัวคุณ

วันที่2: เรากำลังยืดเจ้าออกเพื่อใช้เจ้าเป็นเหมือนกับสายวัดสำหรับทุ่งนาใหม่ !
วันพุธที่6/7/2016
เวลา3.00 น. เช้าวันนี้
พระวิญญาณของพระเจ้าทรงพบกับเราในวิถีทางที่ทรงฤทธานุภาพ
นี่เป็นเวลาแห่งการยืดออก ! เรากำลังยืดขยายความสัมพันธ์ของเจ้าออก  ยืดขยายกระเป๋าสตางค์ของเจ้าออก , ยืดขยายนิมิตของเจ้าออก เรากำลังยืดขยายเจ้าเพื่อที่เราจะสามารถที่จะแผ่ขยายเจ้าออกไปและสร้างขอบเขตใหม่ของยุทธศาสตร์สำหรับอาณษจักรของเรา  จงหยุดต่อต้านการยืดออก จงปล่อยให้เส้นประสาทในระบบของเจ้าถูกทำให้ตึงเพื่อที่ความเชื่อสามารถที่จะปรากฏให้เห็นในวิถีทางใหม่  เราปรารถนาให้เจ้าเป็นเชือกที่เราใช้วัดทุ่งนาใหม่ 
เจ้าได้ถามว่า สายดิ่งอยู่ที่ไหน เราตอบว่า เจ้าคือสายดิ่ง
 เจ้าถามว่า  ประตูอยู่ที่ไหน      เราตอบว่า  เจ้าคือประตู 
ทำกิจของพระบิดาของเจ้า เพียงแค่สำแดงเสียงจากอาณาจักร  ทำกิจของอาณาจักรของเรา  สำแดงเสียงของพระบิดาของเจ้า    

เข้ามาและรวมตัวกันเป็นกองทัพ เรากำลังรวมพล !เรากำลังรวบรวมกำลังทหารของเราอีกครั้งหนึ่ง!
นี่เป็นปีแห่งการรวบรวมกำลังพลของเราขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะส่งพวกเขาออกไปยืนอยู่ในทุ่งนาใหม่  เราจะเริ่มปลดปล่อยพันธกิจใหม่ เราได้ทำเครื่องหมายบนแผ่นดินโลกสำหรับคนของเราที่จะถูกส่งออกไปให้ยืนมั่นคงอยู่  ทุ่งนาเต็มไปด้วยเหตุมากมายที่จะส่งคนของเราเข้าไป  จงรวบรวมเข้าไปในวิหารของเรา และเราจะส่งเจ้าเข้าไปในทุ่งนาที่เราได้จัดเตรียมไว้สำหรับเจ้า 
จงรวบรวมเข้าด้วยกัน เรากำลังรวบรวมกองกำลังของเราเป็นกองทัพ เสียงกลองศึกกำลังส่งเสียงอยู่ในอีกฟากหนึ่งของภูเขา บดขยี้ภูเขาลง เพื่อที่เจ้าจะรู้ยุทธวิธีที่จะรุดหน้าเข้าไปสู่ที่ที่เจ้าจะปลันเอาสิ่งต่างๆที่ถูกป้องกันไว้จากเจ้า  อย่ากลัวที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่่เราได้มอบให้แก่เจ้า  เราบันทึกคำสนทนาของเจ้าไว้ในสมุดของเรา  ของประทานที่เจ้ามีมีความสำคัญในการตีความหมายถ้อยคำที่สร้างลูกกรงเหล็กแห่งเสรีภาพสำหรับอาณาเขตทั้งหมด เจ้าได้ถอดรหัสลูกกรงเหล็กของซาตานออกเพื่อหลายคนจะวิ่งเข้าไปในที่กำบัง นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการวิ่งเข้าไปสู่สิ่งที่เราใส่ไว้ในโลก ม้วนหนังสือที่เรากำลังปลดปล่อดลงไปเพราะว่ามันไม่เคยถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งตอนนี้
มีสิ่งที่จารึกในแผ่นดินที่เจ้าไม่สามารถที่จะเห็นได้ ในขณะที่เจ้านมัสการ  เจ้าจะเห็นสิ่งที่ถูกเข้ารหัสและถอดรหัสเพื่อปลดปล่อยเสรีภาพและความชื่นชมยินดีที่ถูกคุมขังเอาไว้  อย่ากลัวแผ่นดินที่เราเรากำลังเคลื่อนไหวและมอบหมายมันให้แก่เจ้า  เจ้าอาจจะมองดูแผ่นดินใหม่ของเจ้าและพูดว่า่  แต่มันมีต้นไม้หนาม !  สิ่งที่จารึกสำหรับเสรีภาพอยู่ในที่นั่น  เคลื่อนเข้าไป เคลื่อนเข้าไปให้ลึกขึ้น และเจ้าจะเริ่มถอดรหัสสิ่งที่จารึกไว้ที่จะทำให้แผ่นดินนั้นแตกออก
สถานที่หลายๆที่ที่เรามีไว้สำหรับเจ้าให้ยืนอยู่นั้นเป็นที่ที่หนามในเนื้อของเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่  หนามนี้เหลือไว้ที่นั่นเพื่อที่จะสอนเจ้าและเพื่อที่จะเอาวิถีแห่งโลกที่เจ้ามีออกไป อย่ากลัวแผ่นดินที่มีไม้หนามนั้นที่เราบอกให้เจ้ายืนอยู่ ความแหลมคมในพันธกิจใหม่ของเจ้าและสถานการณ์ต่างๆเป็นสาเหตุที่จะก่อรูปร่างเจ้าให้เจ้าเข้าไปสู่ของประทานนั้นที่สามารถเคลื่อนเข้าออกในที่ที่ยากลำบาก  ทุ่งนาใหม่กำลังรอเจ้าอยู่ ! ความชื่นชมยินดีกำลังเพิ่มพูนขึ้นและความเจริญรุ่งเรืองของแผ่นดินใหม่จะถูกปลดปล่อยลงมา !
อย่าหยุดอยู่กับที่จนกว่าเราจะบอกเจ้า เพราะหลายๆคนขึ้นไปถึงที่ที่หนึ่งและหยุดอยู่กับที่  จนกว่าเราจะบอกว่านี่คือที่ของเจ้าให้เจ้ายืนอยู่ในจุดนั้น  ให้เท้าของเจ้าถูกสร้างให้เป็นเหมือนตีนกวางตัวเมีย  มีที่สูงมากมายที่ยังไม่ถูกโค่นลงที่จำเป็นต้องถูกรื้อถอนออก  เจ้าต้องก้าวต่อไป ! เจ้าจะต้องรู้ถึงที่ที่เจ้าต้องยืนอยู่ และเจ้าจะต้องไปสู่ที่สูง จงรู้ไว้เถิดว่าสถานการณ์ที่เจ้ากำลังเผชิญอยู๋กำลังสร้างให้เจ้าเท้าของเจ้าเป็นเท้าที่รู็วิธีในการขึ้นที่สูง

วันที่3: ลมแห่งความอัศจรรย์กำลังพัด
วันพฤหัสบดีที่7/7/2016
"ลมแห่งความอัศจรรย์กำลังเดินทางมาจากฟ้าสวรรค์!  เรากำลังกวนลมที่จะทำให้เจ้าประหลาดใจและเรากำลังส่งสิ่งนี้มาจากฟ้สวรรค์! เราจะกวนลมและน้ำ(ลมพายุหมุน)และลมพายุหมุุนนั้นจะเป็นเหตุทำให้สิ่งที่เจ้าได้โยนทิ้งลงไปในน้ำในอดีตถูกนำกลับขึ้นมาใหม่. ลมนี้จะนำเจ้าสู่แผ่นดินใหม่และปกป้องมรดกของเจ้าในอนาคต. ความเชื่อของเจ้ากำลังถูกกระตุ้นสำหรับส่วนใหมนี้ที่จะเกิดผลในอนาคต เราจะนำบางสิ่งกลับมายังเจ้า บางสิ่งที่ได้หายไปในน้ำแล้ว! ขนมปังจะกลับคืนมาอีก! เจ้าจะใช้สิ่งนี้เพื่อปกป้องสิ่งที่จะเป็นของเจ้าในอนาคตข้างหน้า. เสียงแห่งการอวยพรอยู่ในสายลม. เราได้ใส่ชื่อของเราลงไปในสายลม่ เมื่อเจ้าตระหนักรู้ถึงชื่อที่ใส่ลงไปในสายลม พระพรที่อยู่ในสายลมจะปรากฏแก่เจ้า! 
เรากำลังมอบสิทธิอำนาจใหม่ให้แก่คนของเราให้นำทางสายลม เปล่งเสียงเรียกลมทิศเหนือ เปล่งเสียงเรียกลมทิศใต้ เปล่งเสียงเรียกลมทิศตะวันออก
เปล่งเสียงเรียกลมทิศตะวันตก ในขณะที่เจ้ากำลังระบายลมหายใจของเจ้า ลมหายใจและพระพรในสายลมจะอยู่เหนือคนของเรา นี่เป็นวาระเวลาของฤดูกาลใหม่ในการหว่านและเก็บเกี่ยว. ในขณะที่เจ้าหว่านลงไปการนมัสการที่ยิ่งใหญ่กำลังเทพระสิริลงมา! ในขณะที่เจ้าหว่านในวันนี้มันจะไม่เป็นเหมือนกับที่เจ้าหว่านในอดีต. เจ้าจะเก็บเกี่ยว100เท่าเนื่องมาจากการที่เจ้าหว่านเข้าสู่การเคลื่อนไหวใหม่นี้ "

วันที่4 : ช่วงเวลาแห่งความสับสนวุ่นวาย
ในเดือนเมษายน 2016 ที่ผ่านมา ผมได้ส่งข้อความคำเผยพระวจนะนี้ ผมได้เริ่มต้นโดยพูดถึงสิ่งนั้น แม้ว่านี่เป็นการเผยพระวจนะแต่ผมต้องการที่จะส่งการเปิดเผยสำแดงในแบบที่ผู้คนจะได้ยินอย่างชัดเจน
"เริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่25 เมษายน  จนกระทั่ง 20 ตุลาคม 2016 จะเป็นช่วงเวลาแห่งความสับสนวุ่นวายอย่างที่สุดที่บรรดาประชาชาติได้เคยสัมผัสมากว่า160 หรือ 170 ปี  พวกเราตอนนี้ได้ก้าวข้ามเข้าไปสู่ช่วงเวลาที่จะกำหนดอนาคตของเรา  ผมอยากให้คุณรู้ถึงว่าคุณเชื่อมต่อกับพระกายของพระคริสต์อย่างไร ผมต้องการให้คุณรู้ว่าพระกายของพระคริสต์จะไม่เป็นแบบเดิม คุณกำลังยืนอยู่ทีทางแยกและคุณต้องรู้วิธีที่จะหันกลับ นี่เป็นช่วงเวลาที่อเมริกาจะกำหนดอนาคตของตัวเอง แต่จงเข้าใจถึงสิ่งนี้คือ : นี่คือช่วงเวลาที่คนเหล่านั้นที่เป็นคนที่นำอาณาจักรของพระเจ้าจะต้องเคลื่อนเข้าสู่อัตลักษณ์ต่อไปของพวกเขา 
เราต้องการผู้ที่อธิษฐานวิงวอนของเรา เจ้าได้ก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาของพลับพลาของดาวิดที่กำลังถูกยกขึ้นเป็นตัวอย่างและปรากฏขึ้นในโลก   รูปแบบวัฒนธรรมของศาสนาทั้งหมดทั่วแผ่นดินโลกตอนนี้จะต้องเปลียนแปลงไป  จงเต็มใจที่จะสำแดงออกถึงความเป็นยูดาห์ที่จะสร้างต้นแบบของเราในอนาคต  ในคนอเมริกันผิวดำและในประเทศต่างๆในทวีปแอฟริกา  การสำแดงของพระเจ้าจะนำเอาการเคลื่อนไหวผิดๆที่จะแข่งขันเพื่อสิทธิอำนาจในวันข้างหน้าออกไป  คนของเรา ในวัฒนธรรมของพวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถนำเอาความรุนแรงและความเกลียดชังที่อยู่ในสายเลือดของพวกเขาออก  คริสตจักรในทวีปเอเชียจะผงาดขึ้นและสร้างต้นแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน  อิสราเอลจะเข้าสู่ความยากลำบากอย่างที่สุดตั้งแต่ 1967 เจ้าได้ก้าวเข้าสู่วาระเวลาของฤดูกาลใหม่ จงยอมให้ยูดาห์ผงาดขึ้น !
ถ้าเจ้าจะเคลื่อนเข้าไปสู่ช่วงเวลาใหม่ในการนมัสการและการป่าวประกาศ  เราจะซุ่มโจมตีศัตรูของเจ้า ถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกมันก็จะซุ่มโจมตีเจ้า โดยหัตถ์ของเรา เราได้จัดวางสิ่งต่างๆไว้เพื่อเจ้าจะค้นพบในขณะที่เจ้าก้าวเดินไปในแต่ละวัน  จากต้นแบบของสงครามใหม่ , คำสรรเสริญ , ความเป็นผู้นำที่เราได้ยกระดับขึ้นในโลก  เราจะมีการเก็บเกี่ยวศัตรูของเจ้า รูปแบบโครงสร้างในเลือดและโลหิตของเรามีชัยชนะเหนือทุกๆโครงสร้างอื่น  โลหิตของเราต้องถูกทำให้เหมาะสม เราจะมีกำลังคนที่จะผูกมัดผู้ที่มีอำนาจเอาไว้และนำเอาความเจริญรุ่งเรืองของเขาที่ถูกจับกุมเอาไว้ออกมา  จงรู้ว่าตัวเจ้าเป็นใคร และจงรู้ว่าศัตรูของเจ้าเป็นใคร แต่จงให้เราและสิ่งที่เราคิดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเจ้า!"

วันที่5:ยุทธภัณฑ์ใหม่ อัตลักษณ์ใหม่ สงครามใหม่!
"เรามีกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังสร้างขึ้นมา. พวกเขาต้องทิ้งยุทธภัณฑ์เดิมของพวกเขาที่ได้ใช้ทำสงครามในฤดูกาลที่ผ่านมา. ยุทธภัณฑ์อันนนั้นถูกใช้และมีชัยชนะหลายต่อหลายครั้งแต่นั่นไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับเจ้าในวันข้างหน้า เราจะทอแสงเหนือชิ้นส่วนหลายๆชิ้นรวบรวมส่วนอื่นๆจากชัยชนะในอดีตขึ้นมาใหม่และมอบอาวุธใหม่สำหรับสงครามแบบใหม่  จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดในฤดูกาลนี้ เจ้าจะรู้ก็ต่อเมื่อเจ้าถูกสวมมันอย่างสมบูรณ์ ชิ้นส่วนบางชิ้นที่เจ้าจำเป็นต้องมีสำหรับฤดูกาลนี้ เรากำลังส่งไป จงรู้เถิดว่าเนื่องจากความไม่กระตือรือร้น/ความเฉยเมย ศัตรูกำลังสกัดกั้นบางอย่างจากสวรรค์ชั้นสอง! จงขึ้นมา จงลุกขึ้น!จงยอมให้จิตวิญญาณของเจ้าที่อยู่ภายในเจ้าผงาดขึ้นมา! อย่ากลัวเนื่องจากเจ้ารู้สึกอ่อนแอในท่ามกลางความอ่อนแอของเจ้า เจ้าจะลุกขึ้นและเข้าสู่ที่ที่เราจะส่งเจ้าออกไปเพื่อรวบรวมยุทธภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับปลดปล่อยคำสัญญาตามวาระเวลาที่ถูกทำให้ล่าช้า
หลายคนประเมินเราต่ำเกินไป ทำเลย ดูถูกเราต่อไปในฤดูกาลนี้นี่ไม่ได้เป็นการข่มขู่คุกคามความสามารถในการกระทำของเราเลย เราเป็นเหตุที่ทำให้เจ้ามีชัยชนะในแบบที่เจ้าไม่ได้ตระหนักว่าเรากำลังนำไปสู่ชัยชนะ เมื่อพวกเขาตรึงเราพวกเขาคิดว่าศาสนามีชัยเหนือหัวใจพระบิดา เราได้ลุกขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจทั้งหมดในหัตถ์ของเรา ในฤดูกาลนี้ พระกายของพระคริสต์กำลังลุกขึ้น. ดูถูกเราต่อไปหากว่าเจ้ารู้สึกเช่นนั้นแต่จงเฝ้าดูสิ่งที่เราทำ เรากำลังเป็นเหตุให้เจ้าผงาดขึ้นเหมือนกับกองทัพใหญ่อย่างมากมายเมื่อเราได้ให้เอเสเคียลเรียกกระดูกแห้งและปลดปล่อยออกมาจากความหวังที่หน่วงรั้งเอาไว้ เจ้าจะประหลาดใจในฤดูกาลนี้ในการเห็นหมายสำคัญและการอัศจรรย์และการสำแดงอัศจรรย์โดยนามของเรา นี่เป็นช่วงเวลาของความเป็นไปได้เหนือธรรมชาติ เมื่อสิ่งต่างๆยากลำบาก จงจดจ่อสายตาของเจ้าอยู่ที่เราและเจ้าจะมีความสามารถเหนือธรรมชาติที่จะก้าวข้ามผ่านความเป็นมนุษย์ของเจ้า! พระวิญญาณของเราจะครอบครองอยู่เหนือวิญญาณของเจ้า จงจดจ่อสายตาของเจ้าอยู่ที่เราและเราจะยกเจ้าขึ้นด้วยพระคุณเหนือธรรมชาติของเราและความสามารถที่เจ้าไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เราจะสวมทับเจ้าและเจ้ามีชัยชนะ! 
เราบอกแก่เจ้าว่าอย่ากลัวสงครามถัดไปเพราะถ้าเจ้ามองดูที่สงครามจากที่ที่เจ้ากำลังยืนอยู่ในเวลานี้โดยไม่ได้ขึ้นมาเพื่อถูกส่งเข้าไปในสงครามนั้นมันจะเป็นเหตุทำให้เจ้าถอยหลัง. เราบอกให้ขึ้นมาและผ่านเสียงที่เราปลดปล่อยลงไป จงยอมให้เราสวมเจ้าใหม่ จงยอมให้เรามอบอาวุธให้แก่เจ้าแม้ว่าศัตรูได้ยึดเอาไว้ เพราะศัตรูได้ยึดอาวุธที่เราจะใช้เอาไว้และเราบอกว่าโดยการปลดล็อคเสียงที่จะเป็นเหตุที่ทำให้วิญญาณของคนของเราลุกขึ้นเท่านั้นที่จะทำให้อาวุธเหล่านั้นจะถูกมอบให้แก่คนเหล่านี้ เราปรารถนากลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่จะมีชัยชนะในวันข้างหน้าแต่เราต้องสวมทับพวกเขาในเวลานี้ที่กำลังมาถึง ในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากของเจ้า จงขึ้นมา!จงขึ้นมา!จงขึ้นมา!และในการขึ้นมาของเจ้า  จงถูกสวมทับ  ถูกสวมทับ ถูกสวมทับจนกระทั่งเจ้ากำลังสวมชุดเจ้าสาวแห่งชัยชนะในเวลานี้ เราบอกว่าชุดนี้พร้อมด้วยเสียงของแผ่นดินไม่ใช่เสียงความบาปผิดของแผ่นดิน ชุดนี้พร้อมด้วยเสียงของแผ่นดินและเสียงของเหล่าบรรดาผู้อาวุโสในสวรรค์และเหล่าบรรดาพยานในสวรรค์ เราตรัสเสียงผ่านสวรรค์ตอนนี้เพื่อจะปลดล็อคสิ่งที่อยู่ในโลกและโดยสิ่งนั้น กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งจะไปทำสงครามและมีชัยชนะเพราะพระสิริของเราจะอยู่เหนือพวกเขาในข้างหน้า

วันที่6:เสียงแห่งการกลับคืนสู่สภาพดีกำลังพัดอยู่ในสายลม
มีท่วงทำนองของสายลมบนยอดไม้ มีเสียงของกองทัพฑูตสวรรค์ที่ซ่อนอยู่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในภูมิภาคของเจ้า นี่เป็นเสียงของการกลับคืนสู่สภาพดีที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นเสียงของชัยชนะอย่างสูงสุดเหนือสิ่งที่เคยหยุดยั้งเจ้าเอาไว้ในอดีต ตอนนี้เจ้าจะรู้เท่าทันและไล่ตามทันศัตรู
เจ้ารู้สึกถูกทอดทิ้งและหลงทาง ในเวลานี้สายลมแห่งการกลับคืนสู่สภาพดีกำลังพัด
เราสามารถไปในที่ที่ลึกที่สุดที่เจ้าอยู่  เราสามารถนำเจ้าขึ้นสู่ที่สูงที่ที่เราประทับอยู่  เมื่อเจ้าได้ยินเสียงในสายลมนี้ เจ้าจงโห่ร้องกลับไปด้วยเสียงจากที่ลึกของจิตวิญญาณของเจ้า. นี่จะปลดปล่อยการกลับคืนสู่สภาพดีให้เกิดขึ้นและเตรียมหนทางที่เราปรารถนาจะนำเจ้าไป ถ้าเจ้าจะทำเช่นนั้น การทรงสถิตของเราและเสียงนั้นจะประสานกันอย่างกลมกลืน มันจะเป็นเหมือนกุญแจที่จะเปิดประตูให้แก่เจ้า. อย่าคิดว่าเจ้าถูกจับกุมเอาไว้และหลงทาง เราสามารถพบเจ้าได้ตลอดเวลา. เราเป็นเหตุที่ทำให้เจ้าลุกขึ้นและเดินไปสู่สถานที่ที่เรามีไว้สำหรับเจ้า นี่เป็นวันที่ผ้าคลุมแห่งความตายถูกเอาออกไป ผ้าคลุมนี้ปิดบังสิ่งที่เราปรารถนาให้เจ้าเห็น จงฟังเสียงลมและเฝ้าดูการเปิดเผยของการจัดเตรียมที่จะไล่ตามทันเจ้าและนำหน้าเจ้าไปที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

วันที่7:ผ่านความคุ้นเคยไปสู่ประตูใหม่ที่อยู่ข้างหน้า
" มีประตูที่เจ้าคุ้นเคยหลายๆประตูที่เจ้าเคยเดินผ่านมันมาก่อน แม้ว่าเจ้ากำลังเคลื่อนไปข้างหน้าเรากำลังนำเจ้าย้อนกลับไปบางที่ที่เจ้าเคยผ่านมาก่อน ในการที่เจ้าจะกลับไปสู่ที่เหล่านั้นได้เจ้าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือและการเจิมจากผู้อื่นเพื่อเจ้าจะนำสิ่งที่เสียหายจากที่เหล่านั้นไปสู่สิ่งใหม่ วิญญาณที่คุ้นเคยและวิญญาณบรรพบุรุษกำลังรอคอยที่จะซุ่มโจมตีเจ้าและหยุดยั้งเจ้าไม่ให้เจ้าเข้าไปทำสิ่งที่เจ้าได้รับมอบหมายในอดีตให้สำเร็จ. เจ้าจะต้องเข้าไปใกล้ประตูที่เจ้าคุ้นเคยในแต่ละประตูอย่างแตกต่างออกไป เมื่อเจ้าพยายามที่จะกลับไปก้าวผ่านประตูนั้น เราได้ส่งเจ้าก้าวผ่านไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจำเป็นต้องมีฑูตสวรรค์ที่แตกต่างออกไปในการก้าวเข้าไป จงได้รับการปลดปล่อยจากเหล่ากองทัพฝ่ายวิญญาณเดิมๆ นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกๆอย่างรอบๆตัวเจ้าแคบลง ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างแคบลงเช่นนี้เราจะเจิมเจ้าและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถูกเจิมเพื่อที่จะช่วยเจ้าเพื่อที่เจ้าจะทำสิ่งที่เรากำลังเรียกให้เจ้าทำให้สำเร็จ ประตูเหล่านั้นบางประตูจำเป็นต้องมีผู้อื่นช่วยให้เจ้าก้าวข้ามผ่าน เจ้าต้องถูกนำ,ถูกปกคลุมและถูกเจิมด้วยน้ำมันโดยพระวิญญาณของเราอย่างสมบูรณ์เพียงเท่านั้นจึงจะทำให้เจ้าสามารถที่จะก้าวผ่านประตูเหล่านั้นได้ เจ้าไม่เพียงแค่ต้องการการเจิมแต่ยังต้องการวิญญาณแห่งการร่วมมือกัน(การร่วมมือกันจะนำกำลังใหม่ออกมา) จงมองดูที่เพื่อน/คนรอบๆตัวเจ้า เพราะในการรวมกลุ่มกันเป็นการเจิม พวกเขาจะช่วยเจ้าในขณะที่เจ้าเคลื่อนเข้าสู่ประตูแคบที่เคยผ่านมา โอกาสต่างๆอยู่ที่นั่นพร้อมด้วยแหล่งทรัพยากรและการจัดเตรียมที่จะนำเจ้าข้ามผ่านประตูเหล่านั้น เจ้ากำลังจะทำสำเร็จในฤดูกาลหนึ่งและเริ่มต้นอีกฤดูกาลหนึ่ง มีแหล่งทรัพยากรที่ถูกละทิ้งและแหล่งทรัพยากรอื่นที่จะถูกค้นพบ. นี่เป็นวันแห่งการก้าวข้ามผ่านไปสู่สิ่งใหม่